
อย่าประมาทในชีวิต
คำสอนที่พระพุทธองค์ทรงย้ำเตือนมาโดยตลอด คือ “ความไม่ประมาท” ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินชีวิต เพราะความประมาทคือการขาดสติ การปล่อยปละละเลยในการกระทำสิ่งต่างๆ ทั้งที่เป็นประโยชน์และโทษต่อตนเองและผู้อื่น
1. ความประมาทในวัย
คนส่วนใหญ่มักประมาทในเรื่องของวัย คิดว่าตัวเองยังหนุ่มยังสาว ยังมีเวลาเหลือเฟือที่จะทำสิ่งที่ต้องการ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ชีวิตไม่แน่นอน วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หากเรามัวแต่ใช้ชีวิตอย่างประมาท ไม่รีบสร้างบุญกุศล หรือไม่รีบพัฒนาตนเอง เมื่อวันหนึ่งชีวิตต้องสิ้นสุดลง เราก็อาจจะรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่ควรทำ
2. ความประมาทในการทำงาน
การทำงานอย่างประมาท ขาดสติ และไม่รอบคอบ อาจนำมาซึ่งความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อตนเองและผู้อื่นอย่างคาดไม่ถึง การทำงานอย่างไม่ประมาทคือการตั้งใจทำงานทุกอย่างอย่างเต็มที่ มีสติ และรอบคอบอยู่เสมอ
3. ความประมาทในเรื่องความสัมพันธ์
การประมาทในการดูแลความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เช่น การละเลยพ่อแม่ ผู้มีพระคุณ หรือการไม่ใส่ใจคนรัก อาจนำมาซึ่งความเสียใจในภายหลัง เพราะคนที่เราคิดว่าอยู่ข้างเราเสมอ อาจไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป การดูแลความสัมพันธ์อย่างไม่ประมาท คือการให้ความรัก ความใส่ใจ และทำความดีต่อกันในทุกๆ วัน
4. ความประมาทในการดูแลสุขภาพ
การใช้ชีวิตอย่างประมาท ไม่ใส่ใจในสุขภาพร่างกาย เช่น การกินอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ อาจนำไปสู่การเจ็บป่วยในที่สุด และเมื่อเจ็บป่วยขึ้นมาแล้ว การจะกลับมามีสุขภาพที่ดีเหมือนเดิมก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
สรุป:
ความไม่ประมาท คือการมีสติอยู่กับปัจจุบันเสมอ ไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ตาม การไม่ประมาทในการดำเนินชีวิตคือการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ไม่ปล่อยให้วันเวลาผ่านไปอย่างสูญเปล่า และพร้อมที่จะรับมือกับทุกการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะชีวิตไม่ใช่การเดินทางที่ไม่มีวันสิ้นสุด แต่เป็นการเดินทางที่มีจุดหมายที่เราไม่อาจล่วงรู้ได้ ขอเจริญพร.