
ทำชั่วได้ดี ทำดีได้ชั่ว มีจริงหรือ?
เป็นคำถามที่ลึกซึ้งและเป็นข้อสงสัยที่เกิดขึ้นได้ในใจของหลายๆ ท่าน เมื่อมองดูความเป็นไปในสังคมครับ ในมุมมองของพระพุทธศาสนาและหลัก “กฎแห่งกรรม” แล้ว คำกล่าวที่ว่า “ทำชั่วได้ดี ทำดีได้ชั่ว” นั้น ไม่มีอยู่จริงในความเป็นที่สุด แต่ภาพที่เราเห็นเช่นนั้นเป็นเพียงภาพปรากฏการณ์ในระยะสั้น ซึ่งเกิดจากความซับซ้อนของการให้ผลของกรรมที่ไม่ได้เกิดขึ้นแบบทันทีทันใดเหมือนการกดสวิตช์ไฟ
หลักการสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจคือ กรรม (การกระทำ) เป็นสิ่งหนึ่ง ส่วนวิบาก (ผลของกรรม) เป็นอีกสิ่งหนึ่ง และการให้ผลของกรรมนั้นมีระยะเวลาและเงื่อนไขเข้ามาเกี่ยวข้อง
พระพุทธศาสนาอธิบายปรากฏการณ์นี้ไว้ชัดเจน ดังนี้ครับ
กรณีที่เห็นคน “ทำชั่วได้ดี”
สิ่งที่เห็นว่าเขากำลัง “ได้ดี” เช่น มีความร่ำรวย มีอำนาจ มีชีวิตที่สุขสบาย นั่นไม่ใช่ผลของความชั่วที่เขากำลังทำในปัจจุบัน แต่เป็นผลของ “บุญเก่า” หรือ “กรรมดีในอดีต” ที่เขาเคยทำไว้กำลังส่งผลอยู่
- อุปมาเหมือนคนใช้เงินในบัญชี: บุคคลผู้นี้เปรียบเสมือนคนที่มีเงินเก็บ (บุญเก่า) สะสมไว้ในธนาคารจำนวนมาก ในปัจจุบันแม้เขาจะไม่ได้ฝากเงินเพิ่ม (ไม่ได้ทำความดี) แถมยังเบิกเงินไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย (ทำความชั่ว) เขาก็ยังคงมีเงินใช้สุขสบายได้อยู่ระยะหนึ่ง แต่เป็นการใช้บุญเก่าให้หมดไปเรื่อยๆ และในขณะเดียวกันก็กำลังสร้างหนี้สิน (กรรมชั่ว) เพิ่มขึ้น เมื่อบุญเก่าหมดลงเมื่อใด ผลของกรรมชั่วที่ทำไว้ในปัจจุบันก็จะเริ่มส่งผลอย่างเต็มที่ในอนาคต
กรณีที่เห็นคน “ทำดีได้ชั่ว”
สิ่งที่เห็นว่าเขากำลัง “ได้ชั่ว” หรือประสบกับความทุกข์ยากลำบาก เช่น เจ็บป่วย โดนโกง ชีวิตติดขัด นั่นไม่ใช่ผลของความดีที่เขากำลังทำอยู่ แต่เป็นผลของ “กรรมชั่วในอดีต” (กรรมเก่า) ที่เขาเคยทำไว้กำลังตามมาให้ผล
- อุปมาเหมือนคนกำลังชดใช้หนี้สิน: บุคคลผู้นี้เปรียบเสมือนคนที่มีหนี้สินเก่า (กรรมชั่วในอดีต) อยู่เป็นจำนวนมาก แม้ในปัจจุบันเขาจะขยันทำงานหาเงิน (ทำความดี) แค่ไหนก็ตาม เงินที่หามาได้ก็ต้องถูกนำไปชำระหนี้เก่าก่อน ทำให้ชีวิตยังคงลำบากและดูเหมือนไม่มีอะไรดีขึ้น แต่การทำความดีของเขานั้นก็ไม่เคยสูญเปล่า เพราะเป็นการสร้างเงินออมใหม่ (บุญใหม่) ควบคู่ไปกับการชำระหนี้ เมื่อใช้หนี้เก่าหมดลงเมื่อใด เงินออมที่เขาสร้างไว้ก็จะปรากฏผลให้เห็น ทำให้ชีวิตดีขึ้นในอนาคต
สรุปให้เข้าใจง่าย:
- “ทำชั่วได้ดี” คือ บุญเก่า กำลังให้ผล ส่วน บาปใหม่ ยังรอเวลาส่งผล
- “ทำดีได้ชั่ว” คือ บาปเก่า กำลังให้ผล ส่วน บุญใหม่ ยังรอเวลาส่งผล
กฎแห่งกรรมนั้นเที่ยงตรงเสมอ เหมือนการปลูกพืช พืชที่ปลูกย่อมให้ผลตามสายพันธุ์ของมันเสมอ ปลูกมะม่วงย่อมได้ผลเป็นมะม่วง ปลูกพริกย่อมได้ผลเป็นพริก จะเป็นอื่นไปไม่ได้ เพียงแต่ต้องอาศัยระยะเวลาในการเติบโตและให้ดอกออกผล
ดังนั้น ขออย่าได้หวั่นไหวหรือท้อแท้ใจในการทำความดีเมื่อเห็นภาพปรากฏการณ์ดังกล่าว ขอให้มีศรัทธามั่นคงในกฎแห่งกรรมว่า กรรมดีที่ทำแล้วไม่เคยสูญเปล่า และกรรมชั่วที่ใครทำไว้ก็จะต้องได้รับผลอย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว ไม่ในชาตินี้ก็ในชาติถัดไปครับ