
องคุลีมาล
พระองคุลีมาลเป็นอดีตโจรผู้เหี้ยมโหดในพุทธประวัติ แต่กลับเป็นผู้ที่กลับใจและบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในที่สุด เรื่องราวของท่านเป็นเครื่องยืนยันถึงพุทธานุภาพและพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้า รวมถึงแสดงให้เห็นว่ามนุษย์ทุกคนสามารถกลับตัวเป็นคนดีได้เสมอ
วัยเด็กและการศึกษา
องคุลีมาลมีชื่อเดิมว่า อหิงสกะ แปลว่า “ผู้ไม่เบียดเบียน” เกิดในวรรณะพราหมณ์ เป็นบุตรของปุโรหิตผู้เป็นที่ปรึกษาของพระเจ้าปเสนทิโกศลแห่งแคว้นโกศล ตั้งแต่เยาว์วัย อหิงสกะเป็นเด็กที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด เรียนเก่ง และมีความประพฤติดี ทำให้บิดามารดาและครูบาอาจารย์รักใคร่เป็นพิเศษ
เมื่อเติบโตขึ้น อหิงสกะได้ถูกส่งไปศึกษาศิลปวิทยาที่เมืองตักศิลา ซึ่งเป็นศูนย์กลางการศึกษาที่สำคัญในสมัยนั้น เขาเป็นศิษย์คนโปรดของอาจารย์ผู้สอน เนื่องจากความเฉลียวฉลาดและความขยันหมั่นเพียร
จุดเปลี่ยนสู่เส้นทางโจร
ความเฉลียวฉลาดและความเป็นที่รักของอหิงสกะ ทำให้ศิษย์คนอื่นๆ เกิดความอิจฉาริษยา จึงพากันใส่ร้ายป้ายสีอหิงสกะแก่อาจารย์ ว่าอหิงสกะเป็นคนไม่ดี คิดไม่ซื่อต่ออาจารย์ในเรื่องต่างๆ ในตอนแรกอาจารย์ก็ไม่ได้เชื่อ แต่เมื่อถูกใส่ร้ายอยู่บ่อยครั้งเข้า อาจารย์ก็เริ่มคล้อยตามและหลงเชื่อในที่สุด
อาจารย์เกิดความแค้นเคืองและต้องการกำจัดอหิงสกะ จึงคิดอุบายหลอกอหิงสกะ โดยบอกว่า “อหิงสกะ เจ้าเรียนสำเร็จศิลปวิทยาทั้งหมดแล้ว แต่ธรรมเนียมของอาจารย์ที่สืบทอดกันมาคือ ศิษย์จะต้องนำเครื่องบูชามามอบให้อาจารย์เป็นจำนวนมาก” และได้มอบเงื่อนไขสุดโหดร้ายว่า “เจ้าจะต้องไปฆ่าคนให้ครบ 1,000 คน แล้วนำนิ้วมือของคนเหล่านั้นมาทำเป็นพวงมาลัยถวายอาจารย์”
ด้วยความภักดีต่ออาจารย์และไม่รู้ถึงเจตนาที่แท้จริง อหิงสกะจึงรับปากและออกเดินทางสู่เส้นทางแห่งการฆ่าคน เพื่อให้นิ้วมือครบ 1,000 นิ้วตามที่อาจารย์สั่ง
องคุลีมาลผู้เหี้ยมโหด
อหิงสกะเริ่มลงมือฆ่าคนในป่า และนำนิ้วมือของผู้ที่ถูกฆ่ามาร้อยเป็นพวงมาลัยคล้องคอ ด้วยเหตุนี้ ผู้คนจึงพากันเรียกเขาว่า “องคุลีมาล” ซึ่งแปลว่า “ผู้มีพวงมาลัยคือนิ้วมือ”
ความเหี้ยมโหดขององคุลีมาลสร้างความหวาดกลัวไปทั่วแคว้นโกศล ผู้คนพากันหลบหนีออกจากป่า ไม่มีใครกล้าผ่านเส้นทางที่เขาอยู่ พระราชาปเสนทิโกศลทรงได้รับรายงานเรื่องนี้หลายครั้ง ก็ทรงส่งทหารออกปราบปราม แต่ก็ไม่สามารถจับกุมองคุลีมาลได้ เนื่องจากองคุลีมาลมีกำลังมากและเก่งกาจในการต่อสู้
ในที่สุด พระราชาจึงทรงมีพระบรมราชโองการให้ปราบปรามองคุลีมาลอย่างจริงจัง และมารดาขององคุลีมาลเองก็รู้สึกเป็นห่วงลูกชายมาก จึงตัดสินใจออกเดินทางไปเตือนสติองคุลีมาลด้วยตนเอง
การเผชิญหน้ากับพระพุทธเจ้า
ในขณะที่องคุลีมาลกำลังจะฆ่ามารดาของตนเองเพื่อให้นิ้วมือครบ 1,000 นิ้วตามจำนวนที่อาจารย์สั่ง พระพุทธเจ้าผู้ทรงทราบเหตุการณ์ด้วยพระญาณอันวิเศษ ทรงเสด็จมาปรากฏตัวต่อหน้าองคุลีมาล เพื่อทรงโปรดให้องคุลีมาลพ้นจากบาปกรรมและกลับสู่หนทางแห่งความดีงาม
องคุลีมาลเห็นพระพุทธเจ้าก็วิ่งไล่ตามหมายจะฆ่า แต่ไม่ว่าจะวิ่งเร็วเพียงใดก็ไม่สามารถตามพระพุทธเจ้าทัน ทำให้องคุลีมาลเกิดความสงสัยและหยุดวิ่ง แล้วร้องตะโกนถามพระพุทธเจ้าว่า “สมณะ หยุดก่อน!”
พระพุทธเจ้าทรงตอบกลับว่า “ตถาคตหยุดแล้ว เจ้าต่างหากที่ยังไม่หยุด”
คำตอบนี้ทำให้องคุลีมาลเกิดความฉงนสนเท่ห์ พระพุทธเจ้าจึงทรงอธิบายเพิ่มเติมว่า พระองค์ทรงหยุดจากการทำบาปและอกุศลทั้งปวงแล้ว แต่องคุลีมาลยังคงจมอยู่ในวังวนของการทำบาปอยู่
ด้วยพุทธานุภาพและพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้า ประกอบกับบุญบารมีที่องคุลีมาลได้เคยสร้างสมไว้ ทำให้องคุลีมาลเกิดความสำนึกผิดในบาปกรรมที่ตนเองได้กระทำไป และตัดสินใจทิ้งอาวุธ ขออุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา
การบรรลุธรรม
หลังจากบวชแล้ว พระองคุลีมาลได้ตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด แม้ว่าจะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งจากคำเยาะเย้ย ถากถาง และความหวาดระแวงจากผู้คนที่ยังไม่ลืมความเหี้ยมโหดของเขาในอดีต แต่ท่านก็อดทนและมุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรม
วันหนึ่ง ขณะที่พระองคุลีมาลกำลังบิณฑบาตอยู่ในหมู่บ้าน ได้เห็นหญิงมีครรภ์คนหนึ่งกำลังเจ็บปวดจากการคลอดบุตร ท่านจึงเกิดความเมตตาและรำลึกถึงพระพุทธเจ้าที่ทรงสอนให้แผ่เมตตาจิต จึงได้กล่าวคำสัตย์อธิษฐานว่า “ตั้งแต่ตถาคตเกิดมา ตถาคตไม่เคยเบียดเบียนสัตว์อื่นเลย ด้วยสัจจวาจานี้ ขอให้ความสวัสดีจงมีแก่เธอและบุตรของเธอ”
ด้วยอานุภาพแห่งสัจจวาจาและพลังแห่งเมตตาจิต ทำให้หญิงมีครรภ์ผู้นั้นคลอดบุตรได้อย่างปลอดภัย เรื่องราวนี้เป็นที่มาของ “ปริตรองคุลีมาล” ที่ใช้สวดเพื่อความปลอดภัยของมารดาและบุตร
ในที่สุด พระองคุลีมาลก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในเวลาต่อมา และเป็นแบบอย่างของผู้ที่กลับใจจากความชั่วร้ายสู่หนทางแห่งความดีงามและบรรลุธรรมสูงสุดได้ในที่สุด
ข้อคิดจากพุทธประวัติพระองคุลีมาล
เรื่องราวของพระองคุลีมาลสอนให้เราเห็นถึง:
- อานุภาพของพระพุทธเจ้า: ที่สามารถเปลี่ยนแปลงจิตใจของผู้ที่ทำบาปอย่างมหันต์ให้กลับมาสู่หนทางแห่งความดีได้
- กฎแห่งกรรม: แม้จะบรรลุอรหันต์แล้ว แต่กรรมเก่าก็ยังคงตามส่งผลอยู่บ้าง
- มนุษย์ทุกคนสามารถกลับตัวเป็นคนดีได้: ไม่ว่าอดีตจะเลวร้ายเพียงใด หากตั้งใจจริงที่จะกลับตัวกลับใจ ย่อมสามารถทำได้
- ความสำคัญของเมตตาและสัจจะ: ที่สามารถสร้างอานุภาพอันยิ่งใหญ่ได้